Author: be.healthtech

วิธีเช็ค อาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

• ปวดหลัง ปวดบริเวณเอว เป็นๆ หายๆ
• ปวดร้าวลงไปถึงขา น่อง หรือเท้า
• เดินได้ไม่ไกล มีอาการปวดชาลงไปถึงขาเหมือนเป็นตะคริวร่วมด้วย ต้องหยุดพัก แล้วจึงจะเดินต่อไปได้
• ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง อาจมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงของขา กระดกข้อเท้าไม่ได้

บางรายอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมการขับถ่ายหากคุณกำลังเผชิญปัญหาอาการปวดหลัง หรือภาวะเสี่ยงหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ควรมาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษา กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลังโดยเฉพาะ ซึ่งในเบื้องต้น ผู้ป่วยที่มีภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทสามารถวางแผนแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุดได้แก่

1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ไม่นั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน ๆ ติดต่อกันนานเกิน 1 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการก้มเงย ยกของหนักเป็นประจำ
2. ออกกำลังกาย เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบๆ หลังและหน้าท้องให้แข็งแรง
3. ฝึกยืดกล้ามเนื้อหลัง เพื่อเป็นการลดเกร็งตัวของกล้ามเนื้อหลัง
4. ทานยาแก้ปวด หรือกายภาพบำบัด ซึ่งพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ 80% จะมีอาการดีขึ้น

4 เทคนิคการยืดเหยียดร่างกายเป็นการออกกำลังกายที่ทำได้ง่าย ใช้เวลาน้อย สามารถปฏิบัติได้ทุกเพศ ทุกวัย เมื่อรู้สึกเหนื่อยล้า หรือเมื่อมีเวลาว่างเล็กน้อยจากการทำงาน ซึ่งจะทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ไม่เฉื่อยชา

การยืดเหยียดช่วยให้กล้ามเนื้อเตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหว ประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ดังนี้

1. ยืดกล้ามเนื้อต้นแขน 10-15 วินาที
2. ยืดกล้ามเนื้อแขนและเอว 10-15 วินาที
3. ยืดกล้ามเนื้อต้นคอ 10-15 วินาที
4. ยืดกล้ามเนื้อแนและไหล่ 10-15 วินาที

ยุค
สมัยนี้ โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ดูจะเป็นโรคฮิตของคนยุคใหม่มากพอสมควรเลยนะคะ ด้วยพฤติกรรมการทำงานและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป การทำงานที่เร่งรีบ ไม่มีเวลา ทำให้ไม่ค่อยได้ยืดเส้นยืดสายยืน เดิน เคลื่อนไหวร่างกายไปมา เหมือนแต่ก่อนกันสักเท่าไรค่ะ แต่เดี๋ยวนี้คนทำงานจะใช้เวลาอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ หรือก้มดูมือถือ เป็นเวลานานๆ แทน

อาการออฟฟิศซินโดรม เริ่มแรกจะรู้สึกปวดเมื่อยตามคอ บ่า ไหล่ สะบักหลัง มีอาการชาตามนิ้วร้าวลงขา ซึ่งการนวดอาจจะช่วยให้ดีขึ้นได้ในระยะแรกเท่านั้น เพราะฉะนั้นอย่านิ่งนอนใจกันไปนะ มาดูสาเหตุหลักๆ ของโรคออฟฟิศซินโดรมกันค่ะ ก็คือการที่เราใช้งานกล้ามเนื้อและข้อต่อที่ผิดไปจากภาวะปกติ เกิดจากการที่เราทำงานในพื้นที่จำกัด และขาดการการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและข้อต่อ

 

88% พบว่าคนทำงานเป็นออฟฟิศซินโดรม ดังนั้นเมื่อมีอาการข้างต้นอย่าปล่อยทิ้งไว้นะคะ อาจทำให้เกิดภาวะเรื้อรัง เกิดโรคไมเกรนตามมาได้ มีผลต่อโรคทางระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อต่อที่รุนแรงขึ้นได้ต่อไปค่ะ ดังนั้นควรรีบไปพบแพทย์  เพื่อรักการวินิจฉัย และวางแผนการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ กันดีกว่าค่ะ เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของเรา

มาดูกันว่า สาเหตุของ “ออฟฟิศซินโดรม” เกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะคนที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ บางท่าทางจะทำให้เกิดการโค้งงอผิดรูปของกระดูกได้ และบางท่าทางทำให้เกิดอาการตึง ยึด จนเกิดอาการปวดในที่สุด

วิธีการจัดท่านั่งที่เหมาะสม มีดังนี้

• ศีรษะตั้งตรง
• ไหล่ไม่ยก
• หลังตรงหรือพิงพนักเล็กน้อย
• นั่งให้เต็มก้น เก้าอี้มีพนักพิงระหว่างเอว
• ข้อมือ แขน อยู่ระนาบเดียวกัน 
• แป้นพิมพ์และเม้าส์มีที่รองมือ
• เข่า สะโพกตั้งฉากกัน 90 องศา

สำหรับคนทำงานและพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างน้อยประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ยากที่จะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลให้เกิดอาการปวดตามคอ บ่า ไหล่ หลัง และเข่า ดังนั้นการปรับท่านั่งอาจช่วยลดโอกาสเกิดออฟฟิศซินโดรมได้ไม่มากก็น้อย ลองไปปรับใช้กันดูนะคะเพื่อนๆ